การวางแผนเกษียณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เพราะเป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถใช้ชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมีความสุขและมั่นคง ซึ่งการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เรามีเก็บเงินอย่างเพียงพอและสามารถทำในสิ่งที่เราต้องการได้อย่างสบายใจ ขอชวนทุกคนมาเริ่มต้นวางแผนเกษียณ ด้วยการออมเงินสไตล์มนุษย์เงินเดือนกับ 5 วิธีเหล่านี้กัน!
การวางแผนเกษียณด้วยการเก็บออม หากเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังไม่มากก็จะช่วยให้เราถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการเกษียณหมายถึงการหยุดทำงาน ไม่มีรายได้หลักจากการทำงานอีกต่อไป จึงจำเป็นต้องมีเงินออมไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ จนทำให้เกิดค่ารักษาพยาบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การเตรียมความพร้อมเพื่อวัยเกษียณจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อช่วยให้เรามีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขในบั้นปลายชีวิต ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ
การกำหนดอายุว่าจะเกษียณเมื่อไหร่ เป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนเกษียณสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน เพราะจะส่งผลต่อระยะเวลาในการออมเงินและเป้าหมายในการใช้ชีวิต ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอายุสำหรับการเกษียณขั้นต่ำคือ 60 ปี แต่หลายคนอาจเลือกที่จะเกษียณก่อน หรือหลังอายุ 60 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สุขภาพ ความต้องการส่วนบุคคล และสถานะทางการเงิน ซึ่งหากต้องการเกษียณก่อนอายุ 60 ปี จำเป็นต้องออมเงินให้มากขึ้นเพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในช่วงที่เราเกษียณแล้ว ดังนั้น การวิเคราะห์และกำหนดอายุจึงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ควรต้องคิด เพื่อให้สามารถวางแผนเกษียณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะกับสไตล์มนุษย์เงินเดือนในช่วงที่เรายังมีไฟกับการทำงานอยู่
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เกิดขึ้นหลังเกษียณจะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ดังนั้น ถ้าอยากใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ จะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหลังเกษียณให้ดี ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะน้อยกว่าค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณประมาณ 30% เนื่องจากสามารถตัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเดินทางและค่าเข้าสังคมในที่ทำงานออกไป โดยเราสามารถรวบรวมข้อมูลจากค่าใช้จ่ายในปัจจุบันอย่างน้อย 3 เดือน โดยสามารถนำมาคิดเป็นจำนวนเงินในการใช้ชีวิตหลังเกษียณรายปีและคูณกับจำนวนปีที่คาดว่าจะต้องมีเงินใช้หลังเกษียณได้ตามสูตรในตารางนี้ได้เลย
ค่าใช้จ่ายปัจจุบัน (เฉลี่ย 3 เดือน) | (ค่าใช้จ่ายเดือนที่ 1 + เดือนที่ 2 + เดือนที่ 3) ÷ 3 |
ค่าใช้จ่ายปัจจุบันหลังหัก 30% | ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3 เดือน - (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3 เดือน x 0.03) |
ค่าใช้จ่ายรายปี | ค่าใช้จ่ายหลังหัก 30% x 12 |
ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หลังเกษียณ | ค่าใช้จ่ายรายปีหลังเกษียณ x จำนวนปี |
โดยขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ดังนี้
หากนางสาวเอฟ ต้องการเก็บเงินเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณไปอีก 20 ปี จะต้องเริ่มจากการรวบรวมข้อมูลค่าใช้จ่ายปัจจุบัน โดยพบว่าในเดือนที่ 1 นางสาวเอฟใช้เงินไป 20,000 บาท เดือนที่ 2 ใช้ไป 30,000 บาท และเดือนที่ 3 ใช้จ่ายไป 10,000 บาท จะสามารถนำมาคิดตามสูตรเป็นสเต็ปได้ ดังนี้
● เฉลี่ยค่าใช้จ่ายจำนวน 3 เดือนของนางสาวเอฟ (20,000 + 30,000 + 10,000) ÷ 3 = 20,000
● ค่าใช้จ่ายปัจจุบันหลังหัก 30% ของนางสาวเอฟ 20,000 - (20,000 x 0.03) = 14,000
● ค่าใช้จ่ายรายปีของนางสาวเอฟ 14,000 x 12 = 168,000
● ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หลังเกษียณ 168,000 x 20 = 3,360,000
จากการคำนวณตามสูตรในตารางจะได้จำนวนเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณเท่ากับ 3,360,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อต่อปี 3% หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อความบันเทิง หรือการออมเงินสำหรับการท่องเที่ยว ที่อาจทำให้จำนวนเงินที่ต้องเก็บออมเพิ่มมากขึ้น
หลังจากลองคำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณกันแล้ว การวางแผนเกษียณในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนในขั้นต่อไป คือการนำเงินจำนวนนั้นมาคิดเป็นเงินออมที่ต้องเก็บต่อเดือน โดยสามารถคิดได้ง่าย ๆ จากการนำตัวเลขมาหาร เช่น หากยกยอด 3,360,000 บาทมา ก็จะต้องนำมาหารกับระยะเวลาในการเก็บออมเงินทั้งหมด ซึ่งในที่นี้เราคิดไว้เป็นจำนวน 30 ปี หรือ 360 เดือน เมื่อนำมาหารกับยอดเงินก็จะได้เป็น 3,360,000 / 360 = 9,333 ต่อเดือน ซึ่งอาจจะเป็นจำนวนเงินในการเก็บออมที่ค่อนข้างทำได้ยากในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน จึงแนะนำว่าให้เลือกออมเงินจากช่องทางอื่นที่มีผลตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนเพิ่มเติมด้วย
เมื่อมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มถอดใจ เพราะลำพังเงินที่แบ่งออกมาจากเงินเดือนอาจไม่เพียงพอ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมการวางแผนเกษียณสำหรับมนุษย์เงินเดือนตั้งแต่เริ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเรารู้จักการเก็บออมในวิธีในหลากหลายก็จะช่วยเพิ่มจำนวนเงินในอนาคตได้มากขึ้น โดยเราสามารถนำไปลงทุนในช่องทางอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น
• เงินฝากประจำ เป็นการฝากเงินไว้ในธนาคารเพื่อให้ได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยทางการเงิน เพราะมีความเสี่ยงต่ำ
• หุ้น เป็นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน โดยสามารถตัดสินใจซื้อขายได้ด้วยตัวเอง แต่จำเป็นต้องคอยติดตามข่าวสารหุ้นของแต่ละบริษัทเป็นประจำ เพื่อซื้อขายให้ทันเวลา ลดโอกาสขาดทุน
● กองทุนรวม เป็นการลงทุนในกองทุนกับสถาบันการเงินที่จะนำเงินไปลงทุนตามนโยบายกองทุน โดยสามารถเลือกความเสี่ยงได้ตั้งแต่ระดับต่ำไปถึงสูงสุด โดยมีผู้คิดวิเคราะห์และทำการลงทุนให้ตามแต่ละกองทุน
● ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยประกันสม่ำเสมอและได้รับเงินบำนาญเมื่อครบกำหนดสัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อเกษียณและได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง
ซึ่งการเลือกช่องทางในการลงทุนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการลงทุน การยอมรับความเสี่ยง หรือเงินทุนตั้งต้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ในการเก็บออมโดยคำนึงถึงเป้าหมายในการลงทุนเป็นสำคัญ
การวางแผนและสำรองค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพหลังเกษียณ เป็นค่าใช้จ่ายพิเศษหลังเกษียณที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการวางแผนเกษียณสำหรับมนุษย์เงินเดือน เพราะค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอายุ และอาจกลายเป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้งในอนาคต ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักเป็นจำนวนเงินที่ถูกมองข้าม ไม่ได้ถูกนำไปคิดคำนวณในการเก็บออม ทำให้ต้องดึงเงินจากทุนเกษียณในส่วนของค่าใช้จ่ายพื้นฐานมาใช้แทน แต่หากมีการวางแผนสุขภาพโดยการซื้อประกันชีวิตเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นหลังเกษียณลงได้ อีกทั้งค่าเบี้ยประกันยังไม่แพงหากเราซื้อในช่วงที่อายุยังไม่มาก ซึ่งในอนาคตจะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจได้มากขึ้น
ยิ่งเริ่มวางแผนและเก็บเงินเร็วเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสมีเงินออมเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
กำหนดเงินออมไว้เป็นส่วนหนึ่งจากรายได้อย่างน้อย 10% ของรายได้และควรเพิ่มจำนวนเงินออมให้มากขึ้นทุกปี
พยายามติดตามการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนแผนลงทุนให้ได้ผลกำไรที่สามารถทำให้เงินงอกเงยได้อย่างสม่ำเสมอ
เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โรคภัยไข้เจ็บ หรือภาวะค่าเงินที่ผันผวน
มาวางแผนเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนเพื่อการใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล ด้วยประกันเกษียณ Easy E-Retire 90/5 จากเอฟดับบลิวดี ที่ช่วยให้คุณวางแผนเกษียณได้อย่างแม่นยำ เพราะสามารถกำหนดเบี้ยฯ ที่ต้องชำระในระยะเวลา 5 ปีได้ ทั้งยังให้คุณยิ้มรับเงินบำนาญได้ต่อเนื่องทุกปีจนถึงอายุ 90 และรับเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น สูงสุด 28% ของทุนประกันภัย อีกทั้งยังให้ความอุ่นใจกับการรับเงินก้อนหากเกิดเหตุไม่คาดฝันทั้งก่อนและหลังเกษียณ เพื่อให้คุณสามารถสร้างอนาคตสำหรับการเกษียณที่มั่นคงได้อย่างสบายใจ มีความสุขง่ายทุกวันกับการใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ตามที่ต้องการ