ระยะห่างทางสังคม แปลว่า ระยะปลอดภัย แล้วระยะ...ในกรมธรรม์แปลว่าอะไร? ชอบเคลียร์ชัด ต้องอ่านประกันวันละคำสองคำจะได้ไม่มีระยะห่างระหว่างกัน
5 ระยะต้องรู้ อยู่ในเล่มกรมธรรม์
ระยะเวลาของสัญญาประกัน จะระบุเป็นช่วงเวลาของวันที่เริ่มมีผลคุ้มครอง – วันที่สิ้นสุดสัญญา
ระยะเวลาเอาประกัน หมายถึง ระยะเวลาคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพตามสัญญาของกรมธรรม์ฉบับนั้นๆ เช่น ระยะเวลาเอาประกัน 15 ปี แปลว่าประกันฉบับนี้คุ้มครอง 15 ปี หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในช่วงระยะเวลา 15 ปีนี้ บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุเอาไว้ ส่วนจะได้เงินคืนจำนวนเท่าไรและวันไหนบ้างต้องดูที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์
ระยะเวลาจ่ายที่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน ต้องจ่ายทั้งหมดกี่ปี เพื่อความคุ้มครองที่ต่อเนื่องและสภาพคล่องทางการเงินที่ดี ควรเลือกระยะเวลาและรูปแบบการชำระเบี้ยประกันให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วย จุดสังเกตว่าประกันตัวนี้ต้องจ่ายเบี้ยประกันกี่ปีและคุ้มครองกี่ปี หาคำตอบได้จากชื่อแบบประกัน คลิก
4. ระยะเวลารอคอย
ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง หรือระยะเวลาที่บริษัทประกัน “รอ” ดูว่าคุณ “ป่วย” เป็นโรค “ก่อนทำประกัน” หรือไม่ โดยคำว่าระยะเวลารอคอย (Waiting Period) มักพบใน ประกันสุขภาพ ระยะเวลาจะต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค เช่น ประกันโรคร้ายแรงจะมีระยะเวลารอคอย 90 วัน ในขณะที่ ประกันสุขภาพโรคทั่วไปมักจะมีระยะเวลารอคอย 30 วันนับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ว่าแต่ทำไมถึงมีระยะเวลารอคอยที่ไม่เท่ากัน และหากเสียชีวิตไปในช่วงระยะเวลารอคอยจะได้รับความคุ้มครองหรือเปล่า คลิก
5. ระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย
หมายถึงระยะเวลาที่บริษัทประกันจะผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัย (Grace Period) โดยปกติจะมีเวลา 31 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระเบี้ยประกัน โดยในช่วงระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยยัง คงได้รับความคุ้มครองอยู่ตามปกติหากเสียชีวิตไปในช่วงระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยนั่นเอง
คราวนี้ไม่ว่าจะระยะนี้ ระยะนั้น หรือระยะไหนๆ ในเล่มกรมธรรม์ก็เข้าใจง่าย นอกจากนี้เมื่อรับเล่มกรมธรรม์แล้วยังมีอีกจุดสำคัญๆ ที่ควรให้เวลาสักนิดเพื่อความมั่นใจว่าความคุ้มครองถูกต้องตรงตามที่คุณต้องการอ่าน 4 เช็กลิสต์รับเล่มกรมธรรม์ คลิก