การออม การลงทุน

ไขข้อสงสัย! รวมเรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้สำหรับนักลงทุนคริปโตฯ มือใหม่

21/04/2565

ใครอยากเป็นเศรษฐี! ทุกวันนี้มีแนวทางในการลงทุนแบบใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 
โดยเฉพาะการลงทุนที่กำลังเป็นกระแสฮิต อย่างการเทรดสกุลเงินดิจิทัล 
หรือ Cryptocurrency ที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า ‘คริปโตฯ’ 
ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีช่องทางทำกำไรที่หลากหลาย 
และดูจะทำให้หลายคนกลายเป็นเศรษฐีได้ในเวลาที่รวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนที่หวือหวาอย่างคริปโตฯ ก็มีความเสี่ยงที่สูงมาก ๆ 
ดังนั้นเราควรหาข้อมูลให้รอบด้านก่อนจะเริ่มลงทุน


สำหรับนักลงทุนมือใหม่ การจะก้าวเข้ามาเป็นวัยรุ่นคริปโตฯ 
ก็คงต้องเริ่มจากการหาข้อมูลและทำความเข้าใจภาพรวมของตลาดก่อน 
วันนี้เราเลยหยิบเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ในภาพกว้าง 
มาฝากนักลงทุนหน้าใหม่ทุกคนกัน!


คริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency) คืออะไร?
คริปโตเคอร์เรนซี่ (Cryptocurrency) คริปโต หรือสกุลเงินดิจิทัล 
เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน
บนเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain โดยเทคโนโลยีนี้จะใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ 
เครื่องมาทำหน้าที่รับส่งข้อมูล แปลงเป็นสำเนา 
และเข้ารหัสเพื่อป้องกันการแฮกจากแฮกเกอร์ 
ทำให้ระบบนี้เป็นระบบที่แก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้ยาก 
มีความปลอดภัยสูงและโอกาสในการโจรกรรมข้อมูลต่ำ


คริปโตสกุลแรกที่ถูกผลิตขึ้นคือ Bitcoin 
โดยผลิตขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกทางการเงินในขณะที่ตัวกลางอย่างธนาคารไม่น่าเชื่อถือมากพอ 
ซึ่งนอกจากสกุลเงินคริปโตจะถูกใช้ในการแลกเปลี่ยนเพื่อการลงทุนแล้ว 
ยังสามารถใช้ซื้อ-ขายสินค้าและบริการทั่วไป 
รวมถึงบริการอื่นๆ บน Blockchain เดียวกันได้อีกด้วย

crypto-taxes--tips_2.jpg
ทำความรู้จักเหรียญคริปโตฯ
แน่นอนว่าเหรียญคริปโตฯ ไม่ได้มีแค่ Bitcoin อย่างเดียว แต่ยังมีเหรียญอื่น ๆ 
ที่ถูกสร้างขึ้นอีกมากมายบน Blockchain ที่แตกต่างกัน 
เพื่อให้เหรียญมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไปแบ่งเป็น 7 สาย คือ 

1.เหรียญ Currency Token 
คือเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างจำกัดและจะไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวน 
ใช้เป็นสกุลเงินในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือเงินตราต่างประเทศเหมือนเงินทั่วไป 
โดยราคาของเหรียญจะขึ้นอยู่กับข่าวสารต่าง ๆ และความต้องการในตลาด 
เช่น Bitcoin (BTC) หรือ Litecoin (LTC) เป็นต้น

2.เหรียญ Utility Token 
คือเหรียญที่ใช้ในการเข้าถึงบริการบนแพลตฟอร์มของเหรียญนั้น ๆ 
ซึ่งตัวแพลตฟอร์มก็จะอนุญาติให้นักพัฒนาเข้ามาสร้างบริการหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ 
แล้วใช้หรียญคริปโตฯ เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยน ซึ่งทำให้เกิดบริการอย่าง 
NFT’s Art หรือเกม CryptoKitties ตัวอย่างของเหรียญคริปโตฯ ประเภทนี้เช่น
Ethereum (ETH), Cardano (ADA), Polkadot (DOT)

3.เหรียญ DeFi 
เหรียญ DeFi คือเหรียญที่สามารถใช้ทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ตั้งแต่ ฝากเงิน ถอนเงิน 
กู้ยืม ไปจนถึง Yield Farming ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi (Decentralized Finance) 
ซึ่งเป็นระบบการเงินที่ไม่มีธนาคารมาเป็นตัวกลาง 
แต่ได้รับความน่าเชื่อถือจากการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ที่รัดกุมแทน 
โดยเหรียญในแพลตฟอร์มนี้จะถูกเรียกว่า Token 
เช่น เหรียญ Ethereum (ETH) และ Uniswap (UNI) เป็นต้น

4.เหรียญ Value Transfer
เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ส่งข้อมูลทางการเงินข้ามประเทศ
และแปลงสกุลเงินในอัตราค่าธรรมเนียมต่ำกว่าเหรียญทั่วไป 
เช่น เหรียญ Ripple (XRP) หรือ Stellar (XLM)

5.เหรียญ GameFi
คือเหรียญที่ใช้ซื้อขายและแลกเปลี่ยนไอเทมในเกมออนไลน์ และใช้จ่ายในโลก Metaverse 
เช่น Decentraland(MANA), The Sandbox(SAND), Axie Infinity (AXS) และ  Enjin Coin (ENJ)

6.เหรียญ Stable Coin 
เป็นเหรียญที่ผูกตัวเองเอาไว้กับสินทรัพย์หรือสกุลเงินในโลกความเป็นจริง
โดยจะมีความผกผันและความเสียงน้อยกว่าเหรียญอื่น ๆ 
เช่น Binance Coin (BNB), Bitkub Coin (KUB) หรือ SIX Token (SIX)

7.เหรียญ Meme
เป็นเหรียญที่ทำมาล้อเลียนเหรียญอื่น ๆ ในตลาดคริปโตฯ โดยไม่มีหลักประกันอะไรเลย
 สร้างขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนเทรดกันแบบสนุก ๆ เหรียญมีมที่โด่งดังและน่าสนใจ
อย่างเช่น Doge Coin (DOGE) หรือ Shiba Inu (SHIB)
crypto-taxes--tips_3.jpg
ท่าทีของโลกและประเทศไทยต่อ Cryptocurrency
แม้ว่าเงินสกุลดิจิทัล หรือ Cryptocurrency จะเป็นที่แพร่หลายในกลุ่มนักลงทุนยุคใหม่ 
และมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดอย่างมาก 
แต่การลงทุนชนิดนี้ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากรัฐบาลในหลายประเทศอยู่ดี

เนี่องจากรัฐบาลโดยทั่วไปจะมีธนาคารกลางในการควบคุมการเงิน
และมีกฎหมายที่ออกมาเพื่อควบคุมและจัดการการเงินในประเทศ
แต่ด้วยสกุลเงินคริปโตฯ กลับเป็นระบบการเงินที่ไม่ผ่านศูนย์กลางอย่างธนาคาร 
ทำให้การทำธุรกรรมไม่เป็นไปตามกฎหมายการควบคุมเงินตรา
ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการฟอกเงินหรือการซื้อขายสิ้นค้าผิดกฎหมาย เช่น อาวุธ 
หรือยาเสพติดได้ อย่างกรณีเว็ปไซด์ที่ปิดตัวไปแล้วอย่าง Slik Road 
ที่ให้ลูกค้าซื้อยาเสพติดผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้

เพื่อป้องกันการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศจึงได้ออกข้อกำหนดต่าง ๆ 
เพื่อควบคุมหรือแบนการซื้อขาย การขุด 
หรือการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มคริปโตอย่างเข้มงวด 
อย่างทางการจีนที่มีการประการแบนการซื้อขายคริปโตฯ ในประเทศ 
สหภาพยุโรปที่กำลังร่างกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล (Markets in Crypto Assets (MiCA)) 
การที่รัฐบาลหลายประเทศแบนการลงทุนแบบ IOC 
รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงค์ชาติเอง ก็มีประกาศเตือนนักลงทุน
ให้ระวังการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน

นอกจากนี้กรมสรรพากรยังเล็งเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับบุคคลธรรมดา
ซึ่งเป็นประเด็นร้อนกันอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าล่าสุดจะมีการออกคู่มือคำแนะนำการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมาแล้วแต่ก็ยังมีข้อถกเถียงอยู่มากมาย
ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมีมติยกเว้นการเก็บภาษีคริปโตฯ ออกไปจนถึงสิ้นปี 2565 
crypto-taxes--tips_4.jpg
ลงทุนในคริปโตฯ เป็นอย่างไร
ก่อนจะซื้อขายหรือเทรดสกุลเงินดิจิตอล 
เราต้องเข้าไปสมัครเพื่อเปิดบัญชีของเราบนแพลตฟอร์มที่ใช้เทรด 
ซึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับการอนุมัติจากกลต.ในประเทศไทยตอนนี้คือ 
Bitkub, Zipmex, Binance, Satang Pro, Huobi Thailand, Bitazza, ER-X, Upbit, Z.comEX, Coins และ TH KULAP (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ค. 65)
เมื่อสมัครและเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้วเราก็สามารถโอนเงินจากธนาคารเข้าไปในบัญชีคริปโตฯ 
เพื่อซื้อเหรียญที่เราต้องการได้เลย โดยการซื้อเหรียญคริปโตฯ 
ไม่จำเป็นต้องซื้อ 1 เหรียญเหมือนกับตอนที่เราซื้อหุ้น 
แต่เราสามารถซื้อหน่วยย่อยของเหรียญนั้น ๆ ได้ตามเงินที่เรามี 
เช่น BitCoin (BTC) มีราคา 1,300,000 บาท/เหรียญ 
แต่เราสามารถซื้อเพียงแค่ 0.00073 โดยใช้เงินแค่ 1,000 บาท ได้ 

ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องไปศึกษาเพิ่มในส่วนเทคนิคการอ่านกราฟ 
การหาจุดซื้อและจุดขาย รวมไปถึงช่องทางการติดตามข่าวสารวงการคริปโตฯ ที่น่าเชื่อถือ 
ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าว บทความข่าว แฟนเพจ หรือการเข้าคอมมูนิตี้ของกลุ่มนักลงทุน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามตลาดคริปโตฯ เป็นตลาดที่มีความผกผันสูง 
ดังนั้นการจะลงทุนในตลาดนี้จึงมีความเสี่ยง 
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนเพื่อให้เราได้ประโยชน์สูงสุด 
และหากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงไม่สูงมากเกินไป 
แถมยังพ่วงด้วยประกันชีวิตที่อุ่นใจ ลองมาดูผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่นี่ได้เลย คลิก!
 
อ้างอิง
- https://thematter.co/futureverse/futureword-cryptocurrency/160562 
- https://today.line.me/th/v2/article/Ggk7y7Y 
- https://www.finnomena.com/planet46/gamefi-tokens/ 

- https://www.thairath.co.th/scoop/world/2104450 

- https://themomentum.co/economiccrunch-cryptocurrency/ 

- https://www.springnews.co.th/news/818676 

- https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?release=y&ref=M&id=T1VjWGZqZ29RZHM9 

- https://mgronline.com/stockmarket/detail/9650000023089