สุขภาพและกีฬา

บอกลาอาการเหนื่อยง่าย แค่เริ่มออกกำลังกายอย่างถูกวิธี

08/11/2565
หากคุณเดินไปซื้อของใกล้ ๆ บ้าน แต่รู้สึกเหนื่อยหอบภายในเวลาไม่กี่นาที หรือไม่สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะหัวใจเต้นแรงอย่างรวดเร็ว การออกไปผจญภัย ปีนเขา เดินป่า ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เพราะรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ไหวแน่นอน คุณอาจจะเข้าข่ายกลุ่มคนที่มีอาการ “เหนื่อยง่าย” เข้าแล้ว

อาการเหนื่อยง่าย สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ แม้ว่าจะพบบ่อยในกลุ่มคนที่พ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว เพราะนอกจากสุขภาพที่ร่วงโรยไปตามวัย ไลฟ์สไตล์ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่กระปรี้กระเปร่า และเหนื่อยหอบได้ง่าย ๆ แม้จะทำกิจกรรมที่ไม่ต้องออกแรงเยอะก็ตาม ซึ่งเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตให้สนุกได้ 

อาการเหนื่อยง่าย เกิดจากอะไร?
สาเหตุของอาการเหนื่อยง่ายนั้นอาจมาจากปัญหาทางสุขภาพของแต่ละคน อย่างเช่นภาวะเบาหวาน ภาวะโลหิตจาง หรือไฮโปไทรอยด์ เป็นต้น แต่หากคุณไม่มีปัญหาสุขภาพดังกล่าว พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกว่าร่างกายไม่ฟิต อ่อนล้าทั้งวัน

การเข้านอนดึก ความเครียด การบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป 
การบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์เป็นประจำ หรือการมีน้ำหนักตัวมากเกิน ล้วนมีส่วนทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนแรง แต่อีกหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญก็คือ การขาดการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ
 
reduce-tiredness_2.webp
เหนื่อยง่าย…เพราะร่างกายไม่ได้ออกแรง
การออกกำลังกายเพื่อต้านอาการเหนื่อยล้านั้นอาจฟังดูขัด ๆ กัน เพราะการออกกำลังกายย่อมมาพร้อมกับความเหนื่อย แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นยารักษาอาการเหนื่อยง่ายได้อย่างดีเลยทีเดียว

ร่างกายของมนุษย์นั้นถูกออกแบบมาให้เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ แต่ปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวนนับไม่ถ้วน ประกอบกับการทำงานที่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ยาวนานตลอดวัน เราจึงไม่ได้ขยับร่างกายบ่อยเท่าที่ควรจะเป็น การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการรักษาสุขภาพในทุกมิติ รวมไปจนถึงส่งเสริมความฟิต ให้ร่างกายเหนื่อยล้ากับกิจกรรมต่าง ๆ น้อยลง

ออกกำลังกายยังไง ให้หายเหนื่อย?
การออกกำลังกายทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเบาอย่างการวิ่งเหยาะ ๆ หรือระดับหนักอย่างการเล่นเวท สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อทำเป็นประจำ จะเห็นได้ว่าเหล่านักวิ่งนั้นสามารถวิ่งติดต่อกันได้นานนับชั่วโมง โดยที่อัตราการเต้นของหัวใจยังไม่พุ่งสูง นั่นก็เป็นเพราะว่าการฝึกซ้อมที่ถูกต้องและสม่ำเสมอนั้นช่วยเสริมความอึดได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยบรรเทาความเครียดในแต่ละวัน เสริมการลดและรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งยังเป็นผลดีต่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นทางออกของภาวะเหนื่อยง่าย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัวจริง ๆ 
reduce-tiredness_3.webp
อย่างไรก็ตาม การหักโหมออกกำลังกายโดยไม่มีเวลาให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองย่อมไม่เป็นผลดี ทั้งการฝืนร่างกายให้ใช้แรงหนักเกินรับไหวอาจส่งผลเสียมากกว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับความฟิตของตัวเอง ถ้าเราเพิ่งเริ่มต้น ก็ควรออกกำลังกายในระดับเบา อย่างการวิ่งเหยาะ ๆ สลับเดิน ว่ายน้ำ หรือการเดินเร็ว เป็นระยะเวลาต่อเนื่องสัก 20 นาทีก็เพียงพอ แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเดือนถัดไป ไม่ต้องรีบร้อน ที่สำคัญคือ ต้องมีการวอร์มอัพและคูลดาวน์เสมอ ให้เวลาให้ร่างกายได้พัก 2-4 วันต่อสัปดาห์ และอย่าลืมรับประทานอาหารให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการด้วย

นอกเหนือจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิค (aerobic) ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและปอด เราควรเสริมการออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค (anaerobic) หรือการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากในเวลาสั้น ๆ เข้าไปเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และเสริมความอึดทนโดยรวมของร่างกาย อย่างเช่นการยกน้ำหนัก HIIT หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่คล้ายกัน

การออกกำลังกายที่ดูเคลื่อนไหวอย่างสง่างามอย่างโยคะและพิลาทิสก็เป็นไอเดียที่ดีในการเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย หากใครไม่เคยลองก็อาจคิดว่าเป็นการยืดเหยียดสบาย ๆ แต่อันที่จริงแล้วใช้แรงไม่น้อยเลยแหละ แถมยังเป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังแบบแอโรบิคและแอนแอโรบิค เสริมความแข็งแรงได้ทั่วทั้งร่ายกาย ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาออกไปวิ่งบ่อย ๆ 

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายสดใส มีพลังทั้งกายและใจมากขึ้น แถมยังได้สุขภาพที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม การเจ็บป่วยอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิดอยู่เสมอ การมี ประกันสุขภาพ จาก FWD ช่วยให้คุณคลายความกังวลใจ ยามเจ็บป่วยเมื่อไหร่ ก็มี FWD คอยดูแลอยู่เสมอ

อ้างอิง

- ออกกำลังกายอย่างไรดี?

- Self-help tips to fight tiredness

- เหนื่อยง่าย