วิธีพักปอดให้ห่างไกลโรคมะเร็งปอด

จากปัญหามลภาวะของฝุ่น PM 2.5 บางคนชอบเปิดโหมดไม่รับรู้ เนียน ๆ ไปไม่สนใจอะไร เพราะคิดว่าฉันก็ยังใช้ชีวิตได้ปกติ แต่จริง ๆ แล้วการที่เรารู้เอาไว้นอกจากจะช่วยเติมเต็มความรู้ให้ตัวเองแล้วยังให้ประโยชน์อีกหลายแบบ เพราะการรู้และเข้าใจปัญหาจะทำให้เราแก้ไขและเตรียมตัวรับมือโรคมะเร็งปอดกันได้อย่างถูกวิธี เพราะนี่คือความจริงของปอดที่อย่าป๊อดจนไม่กล้ารับรู้ ความจริงที่ว่าคุณมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งมากน้อยขนาดไหน? ถ้ายังไม่อยากเสียปอดไปต้องอ่านเลย

• สถิติการเป็นมะเร็งปอด

เปิดสถิติสักหน่อยว่าทำไมโรคนี้จึงน่ากลัว สถิติมะเร็งปอดในประเทศไทย จากกรมการแพทย์ ปี 2565 โดยสำหรับประเทศไทยแล้วนั้น โรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นประมาณ 17,222 ราย เป็นเพศชายประมาณ 10,766 ราย และเพศหญิงประมาณ 6,454 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน เห็นตัวเลขแล้ว ก็น่าหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

• สัญญาณการเกิดโรคปอด

รู้แล้วล่ะว่ามะเร็งปอดมันน่ากลัว แล้วตอนนี้เรามีโอกาสเสี่ยงอยู่แค่ไหนกัน ลองมาเช็กเบื้องต้นกันก่อนได้ว่าคุณมีลักษณะอาการเหล่านี้อยู่หรือเปล่า เพราะว่ามะเร็งปอดระยะแรกมักจะไม่มีอาการ แต่เมื่อโรคเริ่มลุกลามไปมากขึ้นก็จะเริ่มออกอาการ ยิ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ทำให้เกิดการวินิจฉัยที่ล่าช้า ก็จะเริ่มมีผลต่อระยะของโรคที่ลุกลามหรือแพร่กระจายไปมาก และส่งผลให้การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มีโอกาสการรักษาหายจากโรคน้อยลง อาการโดยทั่วไปของมะเร็งปอดจะมีสัญญาณเตือน เช่น อาการไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะปนเลือด หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ มีเสียงหวีด เจ็บหน้าอก ปอดติดเชื้อบ่อย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หากใครมีอาการผิดปกติเหล่านี้ผู้ป่วยควรรีบปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด

• สาเหตุของโรคปอด และ โรคมะเร็งปอด

เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป การที่จะเกิดโรคมะเร็งปอดได้นั้น ต้องผ่านความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะส่งผลให้ร่ายกายสะสมสารพิษเอาไว้ จนก่อตัวเป็นเนื้อร้ายในที่สุด ซึ่งความเสี่ยง หรือสาเหตุที่นำไปสู่การเป็นมะเร็งได้นั้น หลักๆก็ได้แก่

• บุหรี่หรือควันบุหรี่

นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดมากที่สุด จากข้อมูลพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10-30 เท่า รวมทั้งผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ซึ่งการสูบบุหรี่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์หลอดลม ทำให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้

• อายุ

ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยทั่วไปความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหลังอายุ 40 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในคนอายุน้อยกว่า 40 ปี ยิ่งถ้าคุณเป็นคนใช้ชีวิตแบบไม่แคร์สุขภาพด้วยละก็ มะเร็งอาจจะมาหาคุณได้ไวขึ้น

• พันธุกรรม

ส่วนหนึ่งที่เราก็อาจจะเลี่ยงได้ยาก นั่นก็คือการที่พบเจอประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคมะเร็งปอด มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดแม้จะไม่ได้สูบบุหรี่ อันนี้ก็คงต้องกลับไปตรวจสอบกับคนในครอบครัวดูให้ดี ถ้ามีโอกาสก็จะได้สามารถหาทางแก้ไขได้ทัน หรือถ้ารู้ล่วงหน้าถึงการมีความเสี่ยงจะได้ซื้อประกันมาไว้ดูแลก่อนเกิดโรคไว้เลย

• ฝุ่น PM 2.5

สาเหตุล่าสุด ที่เพิ่งถูกกลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่กระทบต่อเรื่องปอด แม้ปัญหา PM 2.5 หรือเจ้าฝุ่นจิ๋ว จะเพิ่มมีบทบาทในไทยมาไม่กี่ปี แต่ผลกระทบที่เราได้รับนั้น เป็นเรื่องใหญ่อยู่ทีเดียว ยิ่งหากใครที่ไม่ทันได้ป้องกันตัวเอง หรืออยู่ในพื้นที่ ที่มีค่า PM 2.5 สูง เป็นเวลานาน ก็ตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน

• หากแม้ว่าหนีไม่ได้แต่ยังพอมีทางรอด

มีวิธีที่จะดูแลป้องกันโรคมะเร็งปอดได้ แต่คงไม่มีคำแนะนำไหนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ดีที่สุดเท่ากับการบอกว่า ทำประกันมะเร็งไว้เถอะ ตัดความกังวลไปได้แน่นอนด้วยความคุ้มครองที่รออยู่เคียงข้างคุณ

• คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ เมื่อตรวจพบครั้งแรก รับเงินก้อนไปใช้รักษา ตามแนวทางที่คุณต้องการ

• ตรวจพบมะเร็งทุกชนิดทุกระยะ ครั้งแรก รับเงินก้อน 500,000 บาท, 1,000,000 บาท และสูงสุด 2,000,000 บาท ตามแพ็กเกจที่เลือก (*ยกเว้นมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาชนิดไม่ร้ายแรงรับ 50,000 บาท)

• จ่ายเบี้ยประกันคงที่ 5 ปี คุ้มครอง 5 ปี

• ค่าเบี้ยประกันความคุ้มครองโรคมะเร็งลดหย่อนภาษีได้ ตามประกาศของกรมสรรพากรไม่เกิน 25,000 บาท

• มาลอง คำนวณเบี้ยประกันโรคมะเร็งดูก่อนได้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ หมดกังวลทุกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากโรคมะเร็งปอด

• เดือน 11 เป็นเดือนปอด

เปิดเดือนเกือบท้ายปีด้วยวาระดี ๆ ที่เราอาจไม่ค่อยคุ้นกันนัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเดือนนี้ก็เป็นเดือนสำคัญเช่นกัน นั่นก็คือเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งปอด โรคร้ายใกล้ตัวที่เราควรตระหนักไม่แพ้กับโรคอื่น ๆ และที่สำคัญโรคนี้มีความน่ากลัวซ่อนอยู่เหมือนกัน จนบางทีคนที่มองข้ามโรคนี้ไป มารู้ตัวอีกทีก็เข้าใกล้ความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ไปเสียแล้ว เดือนนี้จึงควรเป็นเดือนที่เราจะได้มาตั้งรับ พร้อมต่อสู้ รวมทั้งป้องกัน ก่อนที่จะสายเกินไป