ไม่ไหว…บอกไหว ใจอ่ะสู้แต่พอดูรายจ่ายค่ารักษาแล้วมีน้ำตาซึม วินาทีเคลียค่าใช้จ่ายตอนออกจากโรงพยาบาลคงเป็นโมเมนต์ที่ไม่น่างดงามสำหรับคนป่วยสักเท่าไหร่ มันก็คงรู้สึกดีอยู่หรอกที่ได้กลับบ้าน แต่บิลค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียให้จบก่อนออกนี่สิ บิลในมือนี่สั่นเลย นั่นก็เพราะว่าการที่ป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลนั้น มันตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชน ทั้งค่ายา ค่าหมอ ค่ารักษาผ่านเครื่องมือต่างๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมจ่ายเพื่อแลกกับการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุด ขนาดมี ประกันสุขภาพ อยู่แล้วด้วยนะแล้วทำไมเราถึงยังต้องมาจ่ายเพิ่มอีก วันนี้หมอประกันมีคำตอบมาบอก
สิ่งที่คนป่วยคิด VS ความจริงที่ต้องเจอ
สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องแอดมิทส่วนใหญ่ ที่สบายใจว่ามีประกันคอยดูแลค่าใช้จ่าย มักจะไม่ทันได้คิดก่อนว่าความครอบคลุมจากประกันที่ตัวเองมี คุ้มครองได้แค่ไหน รู้แค่ว่าไม่เป็นไร เรามีประกันยังไงเขาก็จ่ายให้อยู่แล้ว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จะต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายตอนจะออกจากโรงพยาบาล ที่จะได้เจอค่าบริการต่างๆที่งอกเงยออกมาเกินวงเงินความคุ้มครอง และแน่นอนว่าจะต้องหัวเสียกับการที่ต้องสำรองจ่ายเงินในส่วนนี้ แต่ถ้าคุณได้รู้ข้อมูลนี้สักหน่อย ก็จะพอเข้าใจได้ว่าการมีประกันนั้นไม่ได้การันตีค่าใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ขนาดนั้น เพราะแต่ละแผนประกันก็มีวงเงินและเงื่อนไขที่ต่างกันไป โดยแยกเป็นประเด็นใหญ่ๆ ได้ดังนี้
ประกันของบริษัทก็มีแล้ว จะทำประกันเพิ่มอีกทำไม?
กำบัตรประกันกลุ่ม ประกันสังคมที่คุณได้รับเป็นสวัสดิการจากออฟฟิศของคุณเอาไว้แน่นๆ แล้วฟังเรื่องราวต่อจากนี้ การที่คุณมีประกันต่างๆที่ได้รับจากบริษัทนั่นเป็นสิทธิพื้นฐานที่คุณควรจะได้รับอยู่แล้ว และแน่นอนว่ามันก็สามารถใช้ได้อย่างดีเมื่อคุณเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่การเจ็บป่วยของคุณเริ่มเรื้อรัง เป็นบ่อยขึ้น หนักขึ้น ประกันที่มีอยู่แล้วนั้น อาจจะเริ่มไม่ตอบโจทย์ นั่นก็เพราะว่าประกันเหล่านี้มักจะมาพร้อมวงเงินการคุ้มครองที่ไม่สูงมากนัก และเมื่อคุณนำมันมาใช้สำหรับกรณีการเจ็บป่วยที่ค่อยข้างจะใหญ่สักหน่อย มันเลยทำให้คุณยังคงต้องจ่ายส่วนต่างนั่นเองอยู่ดี เราจึงต้องมองหาประกันที่ให้ความคุ้มครองที่มากกว่ามาช่วยเหลือเราในจุดนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคอยจ่ายส่วนต่างในทุกครั้งไป
ซื้อประกันแล้วต้องอ่านให้ดี
การซื้อประกันนอกเหนือจากการเลือกตามความชอบแล้ว การดูเงื่อนไขของประกันก็สำคัญ เนื่องจากแผนการประกันสุขภาพนั้น จะมีรายละเอียดและเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ประกันแจ้งไว้อยู่ อาทิ วงเงินการรักษา OPD วงเงินการรักษากรณีต้องนอนโรงพยาบาล วงเงินค่าใช้จ่ายกรณีต้องผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งในแต่ละแผนประกันก็จะมีขอบเขตความคุ้มครองแจ้งไว้อยู่แล้วสามารถศึกษาข้อมูลกันได้ แต่สำหรับใครที่อยากสบายใจหายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล กับแผนประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครองครบ ลองศึกษาแผนประกัน เอฟดับบลิวดี พรีเชียส แคร์ จากเอฟดับบลิวดี กันดูครับ ด้วยข้อดีแบบจัดเต็มอาทิ
จะเห็นได้ว่ามีวงเงินในการรักษา ที่จะช่วยดูแลในส่วนของค่าใช้จ่ายเมื่อคุณต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมเลยทีเดียว
ซื้อประกันแล้ว ทำไมยังต้องจ่ายเพิ่ม
ยิงหมัดฮุดของคนที่ซื้อแผนประกันมาแล้ว แต่พอได้ใช้จริง ทำไมยังต้องมาจ่ายค่ารักษาเองอีกส่วนหนึ่ง คำถามนี้มีคำตอบ อยากให้ย้อนกลับไปข้อก่อนหน้าสักนิด อย่างที่บอกไปว่า ตอนที่ตัดสินใจซื้อประกันให้ดูรายละเอียดของกรมธรรม์ให้ดี คำนวณให้แม่นๆ ว่าเราต้องการแผนประกันที่มีวงเงินคุ้มครองต่อการรักษาที่มากน้อยแค่ไหน เป็นแผนการประกันแบบเหมาจ่ายหรือเปล่า ค่าห้องกับค่าอาหารและค่าบริการพยาบาลได้รวมอยู่ในแผนประกันเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ถ้าในแผนไม่ได้รวมค่าเหล่านี้อยู่ด้วย นั่นก็เท่ากับว่าคุณอาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง ซึ่งแผนประกัน เอฟดับบลิวดี พรีเชียส แคร์ จากเอฟดับบลิวดี ก็มีความพิเศษต่างๆ ที่ตรงความต้องการ และครอบคลุมในการดูแลที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่