สุขภาพและกีฬา

5 จุดเปลี่ยนสู่การเป็นมนุษย์ออฟฟิศที่แข็งแกร่ง

ชวนมาเป็นมนุษย์ออฟฟิศผู้แข็งแกร่งสู้งาน แม้จะโดนงานสู้กลับ ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ บอกเลยว่าเปลี่ยนทั้งที ขอทั้งสุขภาพและงานปังๆ ไปพร้อมกันเลย

 

• เปลี่ยนที่ 1 :  เพื่อดูแลสุขภาพดวงตา

healthy_officer2.jpg

มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ใช้สายตาไปกับการจ้องจอทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือทั้งวัน ซึ่งจากข้อมูลของ สสส. ยังพบว่ากว่า70% ของผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มีอาการที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome  ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น อาการตาล้า ตาแห้ง แสบตา แพ้แสงสู้แสงไม่ได้ รวมถึง ปวดศีรษะ ปวดคอ บ่า ไหล่  รวมทั้งแสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจออุปกรณ์ทำงานก็มีผลทำให้เกิดอนุมูลอิสระในเซลล์จอประสาทตา ส่งผลให้เซลล์ค่อยๆ เสื่อมลง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ไม่ดูแลและปรับพฤติกรรมการใช้สายตา อาจจะทำให้เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมในอนาคตได้

 

FWD Tips : เริ่มเปลี่ยนด้วยการพักการมองหน้าจอทุกๆ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ปรับความสว่างหน้าจอให้ลดลง ลดการใช้งานจอในที่มืด และดูแลสุขภาพดวงตาด้วยการรับประทานอาหาร ที่มีสารอาหารช่วยส่งเสริมสุขภาพของดวงตา โดยเฉพาะวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ดีเอชเอ และแอนโธไซยานิน เป็นต้น ที่ช่วยในการมองเห็น เพิ่มความชุ่มชื้นของตา


เรื่องสุขภาพ มีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาไว้อุ่นใจกว่าด้วย ประกันสุขภาพ เอฟดับบลิวดี พรีเชียส แคร์ พร้อมดูแลครอบคลุมทุกค่ารักษา ด้วยผลประโยชน์แบบเหมาจ่าย เริ่มต้น 1 ล้านบาท  สูงสุด 100 ล้านบาท

 

• เปลี่ยนที่ 2 : เพื่อรักษาสุขภาพกระดูก 
healthy_officer3.jpg

มนุษย์ออฟฟิศที่มีเสียงกรอบแกรบจากการขยับตัว ใครได้ยินเสียงนี้บ่อยๆ อย่าชะล่าใจ รวมไปถึงอาการปวดหลังตามติดเหมือนเงาตามตัว อาการต่างๆ เหล่านี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของอาการ “หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม” ซึ่งมีสาเหตุมาจากนั่งทำงานยาว ไม่เปลี่ยนท่าทาง พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้กระดูกสันหลังทรุด ส่งผลให้หลังคด และอาจอันตรายถึงขั้นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้

 

FWD Tips : เริ่มเปลี่ยนด้วยการปรับพฤติกรรมการนั่งทำงาน ด้วยการเปลี่ยนท่าทาง ลองใช้การตั้งเวลาทุกๆ 30 นาที เพื่อเตือนให้ลุก, ยืน หรือเดินสั้นๆ ถือเป็นการพักสายตาพร้อมๆกันไปด้วย และหาเวลาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย และเน้นท่าออกกำลังที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบ ๆ หลัง และหน้าท้องให้แข็งแรงสม่ำเสมอ


เรื่องสุขภาพ มีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาไว้อุ่นใจกว่าด้วย ประกันสุขภาพ เอฟดับบลิวดี พรีเชียส แคร์ ที่จะคอยดูแลหากเกิดอาการเจ็บป่วยไม่สามารถคาดเดาได้


• เปลี่ยนที่ 3 : เพื่อรักษาสุขภาพของระดับฮอร์โมน

healthy_officer4.jpg

จริงจังกับงานน่ะเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามากเกินไป จนร่างกายตกอยู่ในภาวะเครียดอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงแล้ว ยังส่งผลต่อร่างกายอีกด้วย เพราะเวลาเราเครียด  ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา ซึ่งก็คือคอร์ติซอล (Cortisol) ที่เป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียด วิตกกังวล ฮอร์โมนตัวนี้จะถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมต่อการฟื้นฟูร่างกาย ฮอร์โมน รวมทั้งกระตุ้นให้ตับสร้างน้ำตาลมากขึ้น ทำให้เรากินเยอะขึ้น รู้สึกหิวบ่อย

 

FWD Tips : เริ่มลดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด เพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล ลองหาเพลงที่ชอบมาฟังระหว่างทำงาน หรือผ่อนคลายหลังเลิกงานด้วยเรื่องหนังสนุกๆตลกๆ เพื่อลดความเครียดและยังช่วยทำให้สุขภาพจิตใจของเราแจ่มใสขึ้นด้วย


เรื่องสุขภาพ มีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาไว้อุ่นใจกว่าด้วย ไม่ต้องเครียดเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย ประกันสุขภาพเอฟดับบลิวดี พรีเชียสแคร์ที่ดูแลครบอุ่นใจ หากต้องนอนโรงพยาบาล และดูแลค่ารักษาจ่ายตามจริง

 

• เปลี่ยนที่ 4 : เพื่อสุขภาพระบบประสาท และสมอง



healthy_officer5.jpg

นอนน้อยแต่นอนนะ ใครยึดหลักการนี้อาจจะต้องเปลี่ยนแนวคิดเป็นนอนตามเวลาที่ควรจะนอนอย่างเพียงพอแทน เพราะการพักผ่อนน้อย นอนไม่พอต่อความต้องการของร่างกายนั้นส่งผลร้ายแรกกว่าที่เราคิด เพราะภาวะที่ร่างกายนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อความจำและอารมณ์ของเรามากกว่าที่คิด

เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมโดยลองปรับเวลาการเข้านอนให้เร็วขึ้น เพื่อให้นอนได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นไปเช่น อยากเข้านอน 4 ทุ่ม แปลว่า 3 ทุ่มควรย้ายเข้าไปนอนในห้องได้แล้ว แล้วก็เลือกกิจกรรมก่อนนอนที่ทำให้ง่วง เช่น ใครอ่านหนังสือแล้วตาจะปิด ฟังเพลงแล้วสับปะหงก นี่น่าจะเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับการเตรียมเข้านอน เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกาย Active เช่น ออกกำลังกาย หรือ ดูซีรีย์ตอนแรกเพราะอาจจะเพลินจนเลยเวลาที่เราตั้งใจไว้

เรื่องสุขภาพ มีตัวช่วยเรื่องค่ารักษาไว้อุ่นใจกว่าด้วย 
ประกันสุขภาพเอฟดับบลิวดี พรีเชียสแคร์ ติดไว้ด้วยเพื่อช่วยดูแลหากเจ็บป่วย


• เปลี่ยนที่ 5 : เพื่อรักษาสุขภาพจิตใจ

healthy_officer6.jpg

มนุษย์ออฟฟิศที่ต้องเจอกับเรื่องราวมากมายในแต่ละวัน มากกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็มีโอกาสจะส่งผลทำให้เกิดความเครียดสะสมได้ง่าย และยิ่งตอนนี้ที่มีการ Work from home ทำให้หลายคนยิ่งมีสภาวะเครียดมากขึ้น เพราะเวลาที่เกิดความเครียดแล้วไม่ได้ผ่อนคลาย

FWD Tips : 
แนะนำให้เริ่มด้วยการหาคนรับฟัง พูดคุย การประชุมทีม อาจจะมีวันเพื่อนัดเพื่อคุยเรื่องอื่นๆบ้างๆ หรือหากิจกรรมพักผ่อนทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ อย่าง วาดรูป ระบายสี หรือลองทำสมาธิกำหนดลมหายใจก็สามารถช่วยลดความตึงเครียดได้ด้วยเช่นกัน

เรื่องสุขภาพ การมี
แผนสำรองต่างๆ ที่จะไม่เพิ่มความเครียดให้กับชีวิตตัวเองอย่างการทำประกันสุขภาพเอฟดับบลิวดี พรีเชียสแคร์ เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามใจคุณในประเทศ/ทั่วโลก และเลือกแผนความคุ้มครองค่ารักษาด้วยผลประโยชน์แบบเหมาจ่าย

กดปุ่ม 
Save งานมาเยอะแล้ว การที่จะกดปุ่ม Safe สุขภาพร่างกายและจิตใจของตัวเองก็คงไม่ใช่ งานที่ยากเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดนั่นก็คือตัวเราเอง หมั่นดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ