สุขภาพและกีฬา

ประกันสุขภาพ VS ประกันชีวิต ซื้อแผนไหนตอบโจทย์กว่า

FWD Thailand

ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ประกันทั้งสองประเภทต่างก็มีจุดประสงค์ในการคุ้มครองที่ไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่องของระยะเวลาความคุ้มครอง ค่าใช้จ่าย และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ แล้วเราควรเลือกซื้อประกันประเภทไหนถึงจะตอบโจทย์มากกว่ากัน? บทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว

ประกันชีวิต ที่ช่วยคุ้มครองชีวิตและสะสมทรัพย์

ประกันชีวิต เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกัน ครอบคลุมทั้งกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้

นอกจากนี้ ประกันชีวิตยังมีอีกหลายประเภท เช่น ประกันที่ช่วยออมเงินในระยะยาว โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาตามเงื่อนไข ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายในยามเกษียณหรือเพื่อการศึกษาของลูกหลาน และยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ หากใครที่กำลังสนใจอยากทำประกันชีวิต แต่สงสัยว่า การทำประกันชีวิตมีอยู่กี่ประเภท เราสรุปเอาไว้ให้แล้ว ดังนี้

ประเภทของประกันชีวิต

1.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)


ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ให้ความคุ้มครองชีวิตและมีเงินออมระหว่างทาง หากผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินทุนประกันให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไข แต่หากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญาก็จะได้รับเงินก้อนรวม ซึ่งคือเงินทุนประกันที่ได้ชำระเบี้ยประกันไปแล้ว

จุดเด่นของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คือ ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองชีวิตและมีเงินสะสมไว้ใช้ในอนาคต เช่น เงินทุนการศึกษาสำหรับบุตร เงินเก็บเกษียณ เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนเก็บเงินในระยะยาว และต้องการผลตอบแทนที่แน่นอน

2. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)


สำหรับประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา จะเป็นประกันชีวิตที่มีค่าเบี้ยต่ำที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองชีวิตตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี 10 ปี หากผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินทุนประกัน แต่หากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบหรือพ้นกำหนดสัญญาไปแล้ว บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหมคืนให้

จุดเด่นของประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาคือ เบี้ยประกันถูก เนื่องจากบริษัทประกันมีความเสี่ยงน้อยกว่าประกันชีวิตประเภทอื่น และสามารถเลือกคุ้มครองตามเวลาที่ต้องการได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตชั่วระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น

3. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)


ประกันชีวิตแบบระยะยาวหรือตลอดชีวิต จะให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกันตลอดระยะเวลากรมธรรม์ ซึ่งหากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ครบกำหนดระยะเวลาความคุ้มครอง จะได้รับเงินทุนประกันคืนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับประโยชน์ตามเงื่อนไขจะได้เงินทุนประกันแทน

จุดเด่นของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ คือ มีเบี้ยประกันคงที่ และให้ความคุ้มครองชีวิตที่ยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์

4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuities Insurance)


ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตแก่ผู้เอาประกัน ควบคู่ไปกับการรับเงินบำนาญประจำทุกเดือนหรือทุกปี เมื่อมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี เป็นต้นไป หากผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินทุนประกันให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

จุดเด่นของประกันชีวิตแบบบำนาญคือ การได้รับความคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการรับเงินบำนาญ ช่วยให้มีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณอย่างมั่นคง เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้สม่ำเสมอ

คู่รักวางแผนทำประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองแม้เกิดโรคร้าย

ประกันสุขภาพ จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ โดยไม่จำกัดประเภทของโรคหรืออาการเจ็บป่วย เช่น การเจ็บป่วยเล็กน้อย จากโรคภัย หรือเจ็บป่วยหนักจนต้องนอนโรงพยาบาลก็ตาม

ประเภทของประกันสุขภาพส่วนบุคคล

  1. ประกันสุขภาพคุ้มครองผู้ป่วยใน
    ประกันสุขภาพประเภท IPD (In Patient Department) จะให้ความคุ้มครองในด้านการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยใน ตั้งแต่ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่าฉายแสง โดยผู้ป่วยจะต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลามากกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป
  2. ประสุขภาพคุ้มครองผู้ป่วยนอก
    ประกันสุขภาพประเภท OPD (Out Patient Department) ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยนอก (ผู้ที่ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล) ตั้งแต่ค่าปรึกษาแพทย์ ค่าตรวจรักษา ค่ายา ค่าอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อแบ่งเบาความเสียหายทางการเงินจากการรักษาพยาบาล
  3. ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง
    ประกันสุขภาพ ECIR (Enhanced Critical Illness Rider) ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ที่ต้องใช้เครื่องมือแพทย์เฉพาะทางในการรักษาและมีค่าใช้จ่ายสูง โดยแต่ละบริษัทประกันจะครอบคลุมโรคร้ายแรงที่แตกต่างกันไป เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขกระดูกบกพร่อง รวมถึงโรคที่เกิดจากอาการบาดเจ็บต่าง ๆ
  4. ประกันอุบัติเหตุ
    ประกันอุบัติเหตุ PA (Personal Accident Insurance) ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กรณีผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุ รวมถึงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในกรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  5. ประกันชดเชยรายได้
    ประกันชดเชยรายได้ HB (Hospitalization Cash Benefit) จะให้ความคุ้มครองโดยการจ่ายเงินชดเชยรายได้ให้แก่ผู้เอาประกัน (ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล) ในกรณีเจ็บป่วยและต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้

ประกันชีวิตกับประกันสุขภาพ ซื้อแผนไหนตอบโจทย์กว่า?

เป้าหมายทางการเงิน

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เป็นหลักประกันที่ให้ความคุ้มครองในการใช้ชีวิต ที่สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหากต้องเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ก็จริง แต่ในการเลือกทำประกันที่เหมาะกับตนเองนั้น อาจจะต้องดูถึงความต้องการของผู้เอาประกันเป็นหลัก เช่น หากต้องการวางแผนทางการเงินเพื่อเป็นหลักประกันให้กับครอบครัว การทำประกันชีวิตอาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ แต่ในขณะที่ประกันสุขภาพจะเน้นให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นหลักเมื่อเราเจ็บป่วย

ความเสี่ยงด้านสุขภาพ

สำหรับผู้เอาประกันที่ไม่มีสวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาล และผู้ที่มีแนวโน้มหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง หรือเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อยครั้ง การเลือกทำประกันสุขภาพอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า เนื่องจากสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และคุ้มครองครอบครัวให้ได้รับเงินก้อนหนึ่งหากผู้เอาประกันเสียชีวิต ในขณะที่ประกันชีวิตให้ความคุ้มครองเพียงกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพ

ภาระค่าใช้จ่าย

ผู้ที่มีเงินเดือนสูงหรือมีภาระค่าใช้จ่ายสูง อาจเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ในขณะที่ประกันชีวิต ให้ความคุ้มครองชีวิตและออมเงินของผู้เอาประกันเป็นหลัก ซึ่งหากวางแผนซื้อประกันทั้งสองประเภทเอาไว้ ก็จะตอบโจทย์ในระยะยาวได้มากกว่า

โดยสรุปแล้ว ทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ต่างเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้เอาประกันทั้งสิ้น การเลือกทำประกันที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ประกอบกัน เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่าที่สุด

สำหรับคนที่กำลังมองหาความมั่นคงให้กับสุขภาพและทรัพย์สิน สามารถเลือกทำประกันสุขภาพ อีซี่ อี-เฮลท์ จาก เอฟดับบลิวดี ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และเงินชดเชยรายวัน พร้อมผลประโยชน์ความคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง สูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อปี หรือประกันชีวิตออนไลน์ สมัครง่ายใน 5 นาที ไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก ง่ายเพียงกรอกข้อมูล ก็ได้รับความคุ้มครองทันทีที่ชำระเงิน ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายในชีวิตแบบไหน ก็สามารถเลือกซื้อประกันที่ใช่ผ่านเว็บไซต์ของเราได้เลย

แหล่งอ้างอิง

ประกันสุขภาพ มีกี่แบบ แบบไหนคุ้มครองอะไรบ้าง สืบค้นวันที่ 15 มกราคม 2567 จาก https://www.itax.in.th/media/ประกันสุขภาพ/