เตรียมแผนสำรองของชีวิตด้วยประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ แผนสำรองของชีวิต

สุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่งเป็นเรื่องจริง การเตรียมความพร้อมด้วยการทำประกันสุขภาพ ก็ถือเป็นการเตรียมแผนสำรองให้กับชีวิต เพิ่มความสบายใจ เพิ่มทางเลือกในการรักษาและช่วยลดผลกระทบเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ยากจะคาดเดาได้อีกด้วย มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นที่ตัวเองมีอยู่แล้ว เช่น หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม หรือประกันกลุ่มสวัสดิการพนักงาน ซึ่งมีส่วนเข้ามาบรรเทาค่ารักษาได้ แต่การใช้สิทธิ์ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ เช่น ใช้สิทธิ์ได้แค่เฉพาะโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ หรือบางครั้งการใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐก็อาจจะต้องเข้าคิวใช้เวลานานเพื่อเข้ารับการรักษา เราจึงไม่ควรหวังพึ่งสวัสดิการขั้นพื้นฐานเพียงอย่างเดียว แต่ควรเตรียมแผนสำรองให้กับชีวิตด้วย

ถ้าคนมันจะป่วย บางทีแค่กินเฉยๆ มันก็ป่วย! เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเรื่องกินนี่แหละ ไปกินอะไรผิดสำแดงเข้า ผื่นขึ้นหน้าขึ้นตา ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ แค่นี้แหละก็ต้องไปหาหมอแล้ว

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ อาจไม่อยู่ในสิทธิ์รักษาที่คุณมี สุดท้ายต้องควักเงินเก็บออกมาจ่ายแทน เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพนั้นเป็นเหมือนแผนสำรองที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษา ช่วยลดผลกระทบการสูญเสียเงินเก็บไปหรือช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษา ลดปัญหาการขาดสภาพคล่องได้ ทำให้คุณจ่ายส่วนต่างน้อยลงกว่าเดิม

ถ้าสุดท้ายแล้วคุณไม่ป่วย ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่คุณมีสุขภาพแข็งแรง อย่างน้อยๆ เบี้ยประกันที่จ่ายก็ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยค่าเบี้ยประกันสุขภาพสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ตามที่กรมสรรพากรกำหนด

คนทำประกันสุขภาพต้องเลือกแบบที่มีความคุ้มครอง OPD ด้วย นั่นก็เพราะส่วนมากคนทั่วไปหรือ 95.5% ของผู้ป่วยที่มาหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้ป่วยนอก มีเพียง 4.5% เท่านั้นที่รักษาแบบผู้ป่วยใน* และในเมื่อเลือกไม่ได้ว่าจะป่วยตอนไหน ประกันสุขภาพ ที่เหมาจ่าย ทุกการรักษา ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ “ประกัน OPD คุ้มครบ จบหายห่วง” สนใจตามไปอ่านเพิ่มได้ที่นี่ คลิก >> ประกัน OPD คุ้มครบ จบหายห่วง

* ข้อมูลจากผลการสำรวจโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชน พ.ศ.2560 สำนักงานสถิติแห่งชาติ