เมื่อ “ฟรีแลนซ์” แปลว่า อิสระ ที่สามารถรับงานได้อย่างเต็มที่ รับเงินเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งใคร อีกทั้งยังสามารถบริหารเวลาการทำงานได้ตามใจฝัน ตอนกลางวันออกไปใช้ชีวิต ตอนกลางคืนทำงาน หรือกลางคืนจะดูซีรีส์จนถึงเช้า แล้วค่อยมาทำงานช่วงบ่ายทำงานก็ย่อมได้ ด้วยวิถีชีวิตที่สุดทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตอย่างนี้ ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเอง วันนี้เราจะขอแนะนำ 2 หลักการดูแลตัวเอง ด้วยประกันที่ฟรีแลนซ์จะเลิฟ! มีแล้วเพิ่มความอุ่นใจ และยังสามารถลดหย่อนภาษีไปได้อีก
เพราะเรื่องสุขภาพสำคัญ ยิ่งการใช้ชีวิตสไตล์ฟรีแลนซ์ที่ไม่เป็นเวลา และยังต้องเจอกับความเครียดบ่อย ๆ โอกาสที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยก็ย่อมมีมากขึ้น อีกทั้งลักษณะงานแบบฟรีแลนซ์นั้น ยังเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน การมีประกันสุขภาพจึงเหมือนเข้ามาเป็นตัวช่วยในกรณีที่เกิดป่วยขึ้นมา ก็จะได้ไม่ต้องนำเงินเก็บจากการทำงานมาใช้รักษา พร้อมช่วยประหยัดภาษีได้อีกด้วย และนี่คือ 3 ประกันด้านสุขภาพที่ควรมีเอาไว้ เพื่อเป็นเหมือนหน่วยบอดี้การ์ด ดูแลสุขภาพให้กับคุณ
ดูแลตัวเองอย่างที่ 2 : “ประกันเงินออม” ความคุ้มครองก็มี ผลตอบแทนก็มา
สไตล์งานฟรีแลนซ์ ช่วงไหนมีงานเยอะก็ Make Money ได้เยอะ โอกาสเก็บเงินก็มากตามไปด้วย แต่ถ้าช่วงไหน ไม่มีงานเข้า ก็คงรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เฝ้ายอดเงินในบัญชีกันไป เรื่องการเงินจึงสำคัญมากกับคนที่มีอาชีพนี้ ใครหามาได้แล้วใช้เงินจนไม่เหลือเงินเก็บ ทำนายอนาคตได้เลยว่าเจอปัญหาแน่ ๆ แต่ถ้าในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องอุดรอยรั่วเรื่องการเงิน งั้นก็ต้องมีคนช่วยดูแลแล้วล่ะ เพื่อให้มีเวลาเต็มที่กับการทำงานที่เรารัก และการใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระอย่างมีความสุขในแบบของตนเอง ด้วย 3 แผนประกันการออมที่ตอบโจทย์ Lifestyle คนมีอาชีพอิสระ
ยิ่งเรามีอิสระในการทำงาน การใช้เงิน และการใช้ชีวิตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องมีการวางแผนที่ดี เพื่อที่เราจะได้ยังสามารถเต็มที่ได้กับทุกการใช้ชีวิตของเรา ได้แบบสบายใจนั่นเอง